เที่ยวชัยภูมิกับเพื่อนๆ

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องดาวลูกไก่

                                                             
นิทาน เรื่อง "ดาวลูกไก่"

    ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากเชิงเขา ตากับยายปลูกกระท่อมอาศัยอยู่กันตามลำพัง มีอาชีพเก็บผักและของป่าไปขายพอเลี้ยงชีพได้ ตากับยายเลี้ยงไก่ไว้ตัวหนึ่ง ต่อมาแม่ไก่ออกไข่และฟักออกมาเป็นลุกน้อยๆ น่ารักถึงเจ็ดตัว ทุกเช้าแม่ไก่จะร้องกุ๊กๆ เรียกลูกออกไปหากิน สอนให้คุ้ยเขี่ยอาหารและแมลงเล็กๆ ตามพื้นดิน บางวันยายก็จะโปรยข้าวสุกเหลือๆ จากก้นหม้อให้กินด้วย แม่ไก่กับลูกๆทั้งเจ็ดมีความสุขมาก และรู้สึกกตัญญูต่อตายายที่เลี้ยงดูพวกตนอย่างเมตตา ส่วนตากับยายนั้นก็เฝ้าดูแม่ไก่และลูกเจี๊ยบน้อยที่คลอเคลียตามแม่ไม่ยอมห่างด้วยความเอ็นดู ยายตั้งชื่อลูกเจี๊ยบตัวเล็กที่สุดว่า เจ้า "จิ๋ว" "ดูเจ้าจิ๋วสิตา ท่าทางมันขี้อ้อนแม่มันน่าดู" ยายพูด วันหนึ่งขณะที่แม่ไก่พาลูกๆ คุ้ยเขี่ยหากินอยู่ที่ลานดินหน้ากระท่อม แม่ไก่รู้สึกมีเงาดำทะมึนแผ่กว้างอยู่บนฟ้า แม่ไก่ตกใจรีบส่งเสียงเรียกลูกมาใกล้ๆ แต่ลูกๆ ก็ไม่ได้ยิน แม่ไก่แหงนหน้าขึ้นมองก็เห็นเหยี่ยวตัวใหญ่กำลังถลาร่อนลงมาจะโฉบเอาเจ้าจิ๋วลูกรัก "โอ..แย่แล้ว...กุ๊กๆๆ เจ้าจิ๋วลูกรักวิ่งหนีไปเร็ๆ ลูกๆ วิ่งเร็วๆ" แม่วิ่งผวาไปหาลูก แล้วกางปีกป้องกันลูกรัก เรียกลูกมาซุกใต้ปีกของตัวแล้วพาวิ่งไปหมอบที่กอไผ่อย่างรวดเร็ว ตากับยายได้ยินเสียงลูกไก่ร้องจึงรีบวิ่งออกมาช่วยไล่เหยี่ยวบินหนีไป แม่ไก่และลูกๆ จึงปลอดภัยและยิ่งรักตากับยายมากขึ้น เย็นวันหนึ่งมีพระธุดงค์มาปักกลดอยู่ริมเชิงเขา ตากับยายจึงเข้าไปนมัสการ และตั้งใจว่าจะทำอาหารไปถวายพรุ่งนี้ แต่เมื่อค้นดูเสบียงอาหาร ในครัวก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ตากับยายสงสารพระมากเกรงว่าจะอดอาหาร เพราะในละแวกนี้มีบ้านของตนเพียงหลังเดียว จึงปรึกษากันว่าอาจจะต้องฆ่าแม่ไก่แล้วทำอาหารถวายพระ ทั้งตาและยายรู้สึกเศร้าใจมากด้วยความรักและสงสารแม่ไก่และลูกเจี๊ยบต้องกลายเป็นลูกไก่กำพร้า บังเอิญแม่ไก่แอบได้ยินตากับยายปรึกษากัน จึงตัดสินใจยอมสละชีวิตเพื่อตอบแทนบุญคุณของตากับยาย แม่ไก่เรียกลูกๆ มาเล่าเรื่องให้ฟัง และสั่งสอนให้รักกันอย่าทะเลาะกัน เจ้าจิ๋วลูกสุดท้องอย่ากวนใจพี่มากนัก อย่าขี้อ้อนงอแง "จำไว้นะลูกๆ ต้องรักกัน สามัคคีกัน อย่าทำให้ตากับยายร้อนใจ "ฮือๆ หนูจะอยู่กับแม่ หนูคิดถึงแม่ แม่อย่าทิ้งลูกๆไปนะจ๊ะ" ลูกไก่ร้องไห้รำพันอย่างน่าสงสาร ทุกตัวต่างกอดซุกอยู่กับอกแม่เป็นครั้งสุดท้าย เช้ามืดวันรุ่งขึ้น เมื่อตากับยายก่อไฟเตรียมประกอบอาหาร ทันใดนั้นตากับยายก็ต้องตกตะลึงจนร้องไม่ออก เมื่อเห็นลูกไก่ทั้งเจ็ดตัววิ่งตามกันกระโดดเข้ากองไฟด้วยความรักแม่ไก่ เทวดานางฟ้าผู้พิทักษ์ความดี ต่างก็ซาบซึ้งในความกตัญญูของแม่ไก่และลูกไก่ จึงรับเอาลูกไก่ทั้งเจ็ดไปอยู่บนฟากฟ้ามีแสงระยิบระยับเป็นประกาย ประกาศถึงความดีที่มีความรักความสามัคคีของพี่น้องทั้งเจ็ดนั่นเอง เด็กๆ มักได้ฟังนิทานเรื่อง " ดาวลูกไก่" อยู่เสมอเมื่อมองฟากฟ้ายามปราศจากเมฆฝน ก็จะเห็นดาวลูกไก่ดวงเล็กๆ ที่อยู่กันเป็นกลุ่มส่องแสงระยิบระยับน่าเอ็นดู และมีความเชื่อว่าลูกไก่สละชีวิตตามแม่ไก่ไป


ในความเป็นนิทานนั้นผู้เล่ามุ่งหวังจะสะท้อนให้เห็นถึงความรักของแม่ที่มีต่อลูก ความเมตตาของมนุษย์ที่มีต่อสัตว์เลี้ยง และความกตัญญูรู้คุณ อีกทั้งความตั้งใจทำหน้าที่ตามบทบาทของตนให้ดีที่สุด ดังนั้นขอให้น้องๆ เรียนรู้แบบอย่างที่ดีจากนิทานเรื่องนี้ เมื่อใดที่แหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า แลเห็นกลุ่มดาวลูกไก่ ก็ขอให้นึกถึงความสามัคคี ความรัก ความกตัญญู ที่จะส่องประกายระยิบระยับอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น