เที่ยวชัยภูมิกับเพื่อนๆ

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ศิลปะสำหรับเด็ก









หลักสูตรศิลปะเด็กสร้างสรรค์ (Creative Kids Art) มุ่งเน้นพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความอิสระทางความคิดและจินตนาการ เรียนรู้วิธีการและเทคนิครูปแบบใหม่ๆ พร้อมกับการปฎิบัติงานจริงภายในห้องเรียนศิลปะ มีการผสมผสานรูปแบบของงานศิลปะที่หลากหลายเข้าด้วยกัน

เด็กจะได้รับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ โดยการถ่ายทอดผ่านทางงานศิลปะ เรียนรู้ขั้นตอนการทำงานศิลปะอย่างมีระเบียบแบบแผน นอกจากเด็กๆจะได้รับการผ่อนคลาย และสนุกสนานกับเทคนิคและวิธีการสร้างสรรค์งานศิลปะในรูปแบบต่างๆแล้ว ยังเป็นการฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน พร้อมกับสร้างเสริมสุนทรียภาพทางอารมณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุลย์ระหว่างความเข้มแข็งและความอ่อนโยนในจิตใจของเด็กๆ

ผู้รับผิดชอบการสอน จันทนี กุณฑลจินดา (ครูบี) ศิลปกรรมศาสตร์บัณฑิต สาขาจิตรกรรม มหาวิทยาลัยบูรพา มีประสบการณ์การสอนศิลปะโดยตรง จากโรงเรียนสอนศิลปะสมุดไทย

สอนเด็กในช่วงอายุ 4-10 ปี โดยใน 1 ห้องเรียนจะสอนประมาณ 3-8 คน เด็กเล็กและเด็กโตสามารถเรียนร่วมกันได้ คอร์สศิลปะ 1 คอร์สประกอบด้วยการเรียนทั้งหมด 4 ครั้ง ราคา 1,000 บาท (รวมค่าอุปกรณ์) ในแต่ละครั้งจะใช้เวลาเรียน 1 ชั่วโมงครึ่ง โดย เด็กทุกคนจะได้รับผลงาน พร้อมการประเมินผลงานกลับไปด้วยทุกครั้ง




รายละเอียดวิชา และอายุ

1.ศิลปะเด็กวัยซน (อายุ 2 ขวบครึ่ง) น้องๆจะได้ทำกิจกรรมด้านศิลปะเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาไปพร้อมๆกับความสนุกสนานในห้องเรียน เรียน 8 ครั้งๆละ 40 นาที ค่าเรียน 2,100 บาท รวมอุปกรณ์


2.ศิลปะเด็ก คิด คิดสร้างสรรค์ (อายุ 4- 7 ขวบ) เป็นหลักสูตรที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการทางศิลปะเน้นพัฒนาการเด็กด้านอารมณ์ และความคิดสร้างสรรค์ ฝึกทักษะการวาดภาพ ใช้สีขั้นพื้นฐาน การปั้น ประดิษฐ์ และพิมพ์ภาพเพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนวิชาเตรียมพื้นฐานศิลปะต่อไปเรียน 8 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง ค่าเรียน 2,800 บาท รวมอุปกรณ์


3.เตรียมพื้นฐานศิลปะ (อายุ 8 ขวบ) เป็นคอร์สที่ต่อเนื่องจากหลักสูตรศิลปะเด็กซึ่งจะเสริมให้เด็กมีเทคนิคทางศิลปะเพิ่มมากขึ้น น้องๆจะได้เริ่มวาดรูปให้มีแสง-เงาอย่างง่ายๆได้ ด้วยการแรเงาและการไล่สี มีการใช้สีและการสร้างภาพด้วยวิธีการใหม่ๆ เพื่อมารองรับความคิดสร้างสรรค์ด้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เรียน 8 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง ค่าเรียน 2,800 บาท รวมอุปกรณ์


4.พื้นฐานศิลปะ (อายุ 9-12ปี) ฝึกพื้นฐานศิลปะตั้งแต่ความเข้าใจเรื่องการวาดเส้น แสง เงา น้ำหนักการลงสี และ ฝึกปฏิบัติงานศิลปะในรูปแบบ 2 และ 3 มิติ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่จะคิด และทำงาน ในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมที่จะเรียนวิชาวาดเส้นและศิลปะอื่นๆต่อไป เรียน 8 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง ค่าเรียน 2,800 บาท รวมอุปกรณ์


5.พื้นฐานสีน้ำ / สีน้ำมัน (อายุ 5-12ปี) วิชาเลือกสำหรับนักเรียนที่เรียนหลักสูตรพื้นฐานศิลปะมาแล้ว ผู้เรียนจะได้ฝึกฝนเทคนิค สีน้ำ สีน้ำมัน เรียน 8 ครั้งๆละ 2 ชั่วโมง ค่าเรียน 3,400 บาท อุปกรณ์ 1,400 บาท( ไม่รวมค่ากระดาษและเฟรม )


6.วาดเส้น 1,2 ( อายุ 13 ปีขึ้นไป) สอนพื้นฐานตั้งแต่การร่างภาพ (Outline) สัดส่วน(Proportion) การลงแสงเงา (Shade) การจัดวางภาพ (Composition) โดยฝึกวาดหุ่นนิ่งและวัตถุประเภทต่างๆเหมาะสำหรับ นักเรียนที่ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยสาขาวิชาทางศิลปะ และผู้สนใจทั่วไป เรียน 8 ครั้งๆละ 3 ชั่วโมง ค่าเรียน 2,800 บาท รวมอุปกรณ์


7.ความถนัดทางศิลป์ (อายุ13 ปี- เตรียมสอบเอ็นทรานซ์) (จิตรกรรม สถาปัตยฯ ทัศนศิลป์-นฤมิตศิลป์ พัสตราภรณ์ องค์ประกอบศิลป์มัณฑนศิลป์สาขา ประยุกต์ศิลป์ นิเทศศิลป์ ตกแต่งภายใน ออกแบบจิวเวลรี่ ออกแบบผลิตภัณฑ์) สำหรับน้องๆที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในสาขาเฉพาะที่ต้องสอบวิชาความถนัดทางศิลปะน้องๆจะได้เรียนรู้และฝึกฝนเทคนิคการทำข้อสอบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนสอบ เรียน 8 ครั้งๆละ 3 ชั่วโมง ค่าเรียน 2,800 บาท รวมอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน


8.การเขียนภาพด้วยสีน้ำ , สีน้ำมัน , สีพาสเทล ระดับต้น/ กลาง /สูง (อายุ 13 ปีขึ้นไป หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจ) สอนการวาดรูปตั้งแต่การร่างภาพ การจัดองค์ประกอบ เทคนิคการลงสี การเขียนภาพหุ่นนิ่ง ภาพเหมือน ภาพทิวทัศน์ ภาพดอกไม้ เรียน 8 ครั้งๆละ 3 ชั่งโมง ค่าเรียน 4,200 บาท อุปกรณ์ 1,400 บาท ( ไม่รวมค่ากระดาษและเฟรม )
2 ขวบครึ่งอายุ 4-7ปีอายุ 8 ปีอายุ 9-12ปีอายุ 9-12ปีอายุ 13 ปีขึ้นไปอายุ 13 ปี หรือ เตรียมสอบ เอ็นทรานซ์อายุ 13 ปี หรือผู้สนใจทั่ว

สุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย

สุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย



โรคฟันผุในฟันน้ำนมของเด็กไทย มีความชุก (Prevalence)อยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆ และมีความรุนแรงเนื่องจากมีค่าเฉลี่ยฟันผุถอนอุดค่อนข้างสูง จากการสำรวจทันตสุขภาพทั้งระดับจังหวัดทุกปี ตั้งแต่ พ.ศ.2546 เป็นต้นมา และระดับชาติล่าสุด ครั้งที่ 6 พ.ศ.2550 พบกลุ่มเด็กอายุ 3 ปี และ 5-6 ปี มีค่าเฉลี่ยฟันผุถอนอุด (dmft) เป็น 3.6 และ 6 ตามลำดับ และส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการรักษาฟันผุ

 ปัจจัยและสาเหตุที่มีผลต่อการเกิดโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย
   สาเหตุที่เด็กก่อนวัยเรียนมีสภาวะฟันน้ำนมผุสูงเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ พฤติกรรมการเลี้ยงดูเด็กที่ไม่ถูกต้อง เช่น การดูดนมขวดคาปาก การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนมเป็นประจำ การไม่ดูดน้ำตามหลังดูดนม การทำความสะอาดช่องปากไม่สม่ำเสมอ เด็กกลุ่มนี้มีอัตราการผุ ถอน อุด เป็นด้าน โดยเฉลี่ยสูงกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูในทางตรงข้าม เด็กที่ถูกเลี้ยงโดยพี่เลี้ยง ญาติหรือฝากคนอื่นเลี้ยงมีอัตราเฉลี่ย ผุ ถอน อุด สูงกว่าเด็กที่มารดาเลี้ยง การชอบรับประทานของหวาน การแปรงฟันน้อยกว่าวันละ 2 ครั้ง หรือไม่แปรงฟันเลย และการที่เด็กไม่เคยพบทันตแพทย์เลย มีผลต่อการเกิดฟันผุของเด็กวัยนี้เช่นกัน นอกจากนี้ชนิดของนมมีผลต่อการเกิดฟันผุของเด็กวัยนี้เช่นกัน โดยมีการศึกษาอัตราความชุกและความรุนแรงของโรคฟันผุว่าเด็กที่บริโภคนมรสหวานและไม่แปรงฟันก่อนนอนจะมีอัตราการเกิดฟันผุสูงกว่าเด็กที่บริโภคนมรสธรรมชาติ และแปรงฟันก่อนนอน ส่วนอาหารระหว่างมื้อที่เด็กรับประทานไม่มีความสัมพันธ์กับโรคฟันผุ
   ปัจจัยอื่นๆที่พบว่ามีความสัมพันธ์ของโรคฟันผุในเด็กก่อนวัยเรียน คือ อาชีพ การศึกษาของบิดามารดา รายได้ของครอบครัว ทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลทันตสุขภาพเด็กก่อนวัยเรียนของผู้ปกครองพบว่าอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้สาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีฟันน้ำนมผุเร็ว และผุมาก เนื่องจากการกินนมที่ไม่เหมาะสม การกินอาหารแป้งและน้ำตามบ่อยๆ การไม่ทำความสะอาดช่องปาก และการไม่ได้รับบริการด้านป้องกัน จากการวิเคราะห์ที่มาของสาเหตุพบว่า ปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม มีอิทธิพลอย่างมากต่อการดูแลสุขภาพช่องปากเด็ก และส่งผลต่อการเกิดฟันผุในเด็กเล็ก ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition) มีผลต่อการเกิดฟันผุของเด็ก
   จากการสัมมนาระดมความคิดจากผู้ที่ทำงานด้านทันตกรรมป้องกันในเด็กวัยนี้ ผลการสัมมนาสรุปว่า สาเหตุที่ภาวะฟันผุในฟันน้ำนมของเด็กก่อนวัยเรียนยังคงมีปริมาณตลอดจนความรุนแรงของโรคสูงเนื่องจาก
1) ผู้เลี้ยงดูเด็ก ( เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย พี่เลี้ยง เป็นต้น)
1.1 ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็กในการเลี้ยงดูเด็ก
1.2 มีความรู้แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ไม่พยายามสร้างนิสัยการบริโภคที่ถูกต้องให้กับเด็ก
1.3 มีความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ ไม่มีเวลาเอาใจใส่เด็กเท่าที่ควร
1.4 มีทัศนคติต่อโรคฟันผุในฟันน้ำนมยังไม่ถูกต้อง
2) ทันตบุคลากร
2.1 ทันตแพทย์ส่วนใหญ่เน้นไปที่การรักษา ไม่ได้ให้ความสนใจในด้านการป้องกัน
2.2 ทันตบุคลากรมีความรู้แต่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้ไปให้ประชาชนได้อย่างชัดเจน
2.3 การแก้ปัญหาของทันตบุคลากรยังไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน
2.4 งานทันตกรรมป้องกันส่วนใหญ่ฝากไว้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆ เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ทำให้งานด้านนี้ไม่ได้รับผลดีเท่าที่ควร
3) สิ่งแวดล้อม
3.1 สื่อโฆษณาด้านการบริโภคอาหารประเภทขนมและของกินเล่นประเภทแป้งและน้ำตาลมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการรับประทานของเด็ก
3.2 อาหารที่ทำให้เกิดฟันผุประเภทแป้ง น้ำตาล สะดวกในการหาซื้อมากกว่าอาหารประเภทผลไม้
4) รัฐบาล
4.1 รัฐไม่ได้สนับสนุนการป้องกันฟันผุอย่างแท้จริง
4.2 รัฐไม่มีนโยบายการควบคุมการโฆษณาพวกขนม ของกินเล่น ที่ไม่มีประโยชน์แล้วยังมีผลต่อโรคฟันผุโดยตรง 

เพลงสำหรับเด็กปฐมวัย

เพลงออกกำลังออกกำลังด้วยการร้องรำทำเพลง
ให้คลื้นเครงเสียงเพลงบรรเลงจับใจ
เราร้องกันไป ไม่มีหม่นหมองฤทัย
แล้วเราเพลินใจด้วยกันร้องรำทำเพลง

เพลงทำอะไร ย่ะจะทำอะไร ย่ะ ๆ จะทำอะไร จะทำอะไร ทำไมโอ้เอ้
ลุกขึ้นแต่เช้า อย่ามัวโง่เขลา ทำใจโลเล
อาบน้ำแปรงฟัน ของเรานั้น อย่าทำโฉเก
ก็มัวทำอะไร ทำไมไม่ไปโรงเรียนโอ้เอ้ ทำอะไรย่ะๆ

เพลงนี่ของฉัน
นี่มือของฉัน นี่ผมของฉัน นี่หัวของฉัน นี่จมูกของฉัน

เพลงเสียงฝน
เสียงฝน หล่นจากฟากฟ้า สาดซัดมารหนาวเย็นกระไร (ซ้ำ)
พวกเราอย่าออกไปไหน เปียกฝนไปจะเป็นหวัดเอย


เพลงสะอาด

ไหนดูเล็บมือ นี่ไงล่ะ ๆ

แหมสะอาดดีนี่เธอ ขอบคุณค่ะ ๆ
ไหนลองดูฟัน ๆ นี่ไงล่ะ ๆ
แหมสะอาดดีนี่เธอ ขอบคุณค่ะ ๆ


เพลงตำรวจจ๋า

ตำรวจจ๋ากรุณาหนูหน่อย หนูน้อย น้อยจะข้ามถนน
เดินดี ๆอย่าวิ่งซุกซน จะข้ามถนนทุกคนควรระวัง
(ต้องข้าถนนตรงทางม้าลาย)


เพลงสวัสดี

หญิง เมื่อเจอกันฉันทักทายสวัสดี ค่ะ
ชาย สวัสดี ครับ
หญิง ไปไหนมาจ๊ะ
ชาย ไปธุระมาหน่อย
หญิง ก่อนจากกัน ฉัน กล่าวคำ สัสดีค่ะ
ชาย สวัสดี ครับ
หญิง ชาย ส่งยิ้มให้ ส่งยิ้มให้ ซึ่งกัน

เพลงอย่าทิ้ง
อย่าทิ้ง อย่าทิ้ง อย่าทิ้ง ทิ้งแล้วจะสกปรก
ถ้าเราเห็นมันรก ต้องเก็บ ๆ ๆ

เพลงอายน้ำ


อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าฟอกสบู่ถูตัว
ชำระเหงื่อไคลบลาดให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
เราไม่ขุ่นมัว สุขกายสบายใจ


เพลงบ้านฉัน

บ้านฉันมีนกกระจอก ส่งเสียงจอก ๆอยู่บน
บ้านฉันนั้นชอบเลี้ยงนกๆ มันบินโผผกไปมา
บ้านฉันมีดอกไม้สวย บ้านฉันมีกล้วยไม้ป่า
บ้านฉันมีบ่อเลี้ยงปลา ตอนเย็นกลับมาช่างเพลินใจ
พวกเราทุกคนมีความสุขล้นที่บ้าน หลังจากช่วยแม่ทำงานๆ
เราต่างชื่นบานที่บ้านของเรา

หนูนากับหนูเมือง

นิทานเรื่องพ่อค้าเกลือกับลา

เพลง รถไฟ

เพลง เด็กฉลาด

นิทาน ฟ. ฟันปฐมวัย

เพลง กบร้องปวดท้อง

เพลง ก.เอ๋ย ก.ไก่